Wednesday 27 November 2013

อย่าได้ไว้ใจไฟแดง [re-post]


ขึ้น Title มาอย่างนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับหน้าเจ็ด-หลังเจ็ดแต่ประการใด
หากแต่เป็นเรื่องที่ผมสำนึกได้ กับไฟสัญญาณจราจรสีเขียว - เหลือง - แดง

ตาม ธรรมดาของคนนอนเป็นหลับ-ขยับเป็นแดร๊ก อย่างผม จะไม่มีวัน ออกไปตะลอนๆ ตอนกลางคืนเด็ดขาด (นอนไม่พอ ปวดหัว) แต่เมื่อมีโอกาสได้เข้าสังคมคนกลางคืน กับเขาบ้าง ก็มีเหตุต้องขี่จักรยานยนต์ ไปในท้องถนนตอนดึกอยู่มั่ง

เริ่มแรก เลย ผมมีเพื่อนเอารถยนต์มารับ ก็สังเกตุเห็นว่า ตอนจะข้ามสี่แยก มันแทบจะจอดรถดูซ้ายขวา ทั้งที่ไฟสัญญาณจราจรด้านหน้า เป็นไฟเขียวอยู่ ... ผมนึกชมมันในใจ ช่างเป็นคนรอบคอบจริงๆ ถ้าเป็นผมเอง เห็นไฟเขียวตรงหน้า คงขับผ่านไปแล้ว

ต่อจากการชมเพื่อน ก็คิดต่อว่าไอ่คนที่ฝ่าไฟแดง มันช่างเป็นคนที่ประมาทโดยแท้ ถึงจะคุยว่าฝ่ามาเป็นพันๆ ครั้ง ยังไม่เห็นเป็นอะไร แต่ถ้ายิ่งทำบ่อยเท่าไหร่ โอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุก็มีมากขึ้นเท่านั้นแหละเอ็ง

ต่อจากการคิด ถึงเรื่องอุบัติเหตุ ก็คิดต่อว่า เย้ย~~~ อุบัติเหตุมันเป็นเรื่องขอรถชน(ตำ)กัน คนที่ทำผิดกฏกับคนที่ทำถูกกฏ มีสิทธิถึงคราวดับดิ้นชีวาวายได้พอๆ กันนิ

ครั้งหนึ่งในตอนที่ผมยัง เด็ก พอเห็นไฟแดงปุ๊ป ก็เดินนำหน้าน้อง ข้ามถนนอย่างสง่าผ่าเผย ถึงกลางถนนก็ได้ยินเสียงแตรรถดังสนั่น ซึ่งผมไม่ได้สนใจ ส่วนน้องผมตกใจกระโดดเข้ามาเกาะ ผมยังโวยเลย กลัวไรฟระ ข้ามถนนตอนไฟแดงแท้ๆ ถ้าโดนรถชน ไอ่รถที่ชนเราน่ะ เป็นฝ่ายผิดว้อย (แน่นอนว่ารถคัีนนั้นฝ่าไฟแดง ส่วนที่ผมมานั่งโม้ได้อย่างนี้ ก็เป็นอันแน่นอนอีกว่า รถนั่นคงจะเลี้ยวหลบพวกผมไปได้)

ทั้งนี้เพราะถูกสอนว่า การทำถูกกฏจราจร เป็นเรื่องที่ถูก ผมเลยคิดว่า ถ้าข้ามถนนขณะไฟแดง ยังไงเราก็ถูก ...

ถามว่าถูกจริงไหม จริงครับ
 
แต่ถามว่าปลอดภัยไหม ไม่ปลอดภัยครับ

ที่ ไม่ปลอดภัย เพราะการยึดถือว่าเราถูกกฏอย่างเดียว เราก็ตกอยู่ในความประมาทจนเกินไป ทั้งที่รถฝ่าไฟแดงมีเยอะแยะ นอกจากตั้งใจฝ่าแล้ว บางครั้งอาจจะเบรคไม่ทัน เบรคชำรุด เบรคไม่อยู่ ลืมเหยียบเบรค คนขับรถก้มลงมองด้านล่างเพราะหาเบรคไม่เจอ ไม่รู้ว่าเท้าไหนใช้เหยียบเบรค เข้าใจผิดว่าคันเร่งเป็นเบรค ฯลฯ ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ไม่ว่าเราจะถูกหรือผิด สุดท้ายเราก็ต้องเป็นฝ่ายเสียไปด้วย ... อยู่ดีๆ แท้ๆ จะเจ็บตัวเปล่าๆ เนี่ย เรื่องอะไรล่ะ ... แล้วในตอนที่พาน้องข้ามถนน ด้วยความเชื่อว่าทำถูกแล้วจะไม่ผิดเพียงอย่างเดียว นอกจากจะทำให้ผมเสี่ยงชีวิตแล้ว ยังทำให้น้องเสี่ยงชีวิตไปด้วย ... พอคิดได้ดังนี้ ผมรู้สึกสำนึกขึ้นมาทันที

เห็นเพื่อนทำอะไรเข้าท่า ผมก็เลียนแบบเขามั่ง โดยพยายามมองรอบข้าง ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าใครจะถูกเพียงอย่างเดียว แต่ยึดถือเรื่องความปลอดภัยไว้ก่อน

ถ้าเราต้องขับรถ เราต้องพร้อมที่จะหยุดได้ตลอดเวลา
เราพยายามไม่ชนเขา และพยายามอย่าให้เขามาชนเรา






ต่อจากนี้ไป ผมภูมิใจนำเสนอ ความประทับใจที่ไม่ควรลืม ในหัวข้อ ลักษณะของการจงใจฝ่าไฟแดง ณ สี่แยก (จากการสังเกตุและบันทึกข้อมูล ของการขับขี่ยวดยานบนท้องถนนเงียบๆ ในเมืองเล็กๆ)

* ฝ่าไฟแดงขณะก่อนไฟเริ่มเขียว เนื่องจากไฟสัญญาณจราจรสี่แยกจะตั้งโปรแกรมเอาไว้ว่า เมื่อถนนเส้นหนึ่งมีไฟแดงขึ้นแล้ว ไฟแดงของถนนอีกเส้นจะยังไม่กลายเป็นไฟเขียวในทันที ดังนั้นรถที่ฝ่าไฟแดง อาจจะฉกฉวยจังหวะช่วง overlap ของไฟแดงที่เกิดขึ้นนี้
ชิงความได้เปรียบในการออกตัวก่อนรถคันอื่น
ผู้ขับขี่รถบางคน ขณะที่จอดรอสัญญาณไฟเขียว กลับไปสนใจไฟสัญญาณของถนนอีกเส้น หากไฟแดงขึ้นเมื่อใด ท่านก็ออกตัวโดยพลัน ไม่ได้สนใจว่าสัญญาณของท่านจะเป็นสีเขียวหรือไม่ (ท่านฝ่าฝืนกฏ แต่กลับเชื่อใจคนอื่นว่าเขาจะทำตามกฏ ทำไปได้เนาะ ... ความจริงจะรอให้ไฟเขียวก็แค่อีกวินาทีเท่านั้นเอง)

* ฝ่าไฟแดงขณะไฟเริ่มเหลือง โดยช่วงที่ไฟเขียว รถบางคัน(บอกว่าบางคัน แต่ทำไมผมเจอบ่อยๆ) จะแล่นไปด้วยความเร็วของรถเข็นสมบัติล้ำค่า ที่เปราะบางและ อาจแตกง่าย แม้ข้างหน้าจะโล่งโจ้งและ ข้างหลังจะติดขนัดแค่ไหน ก็ไม่สน ... อันที่จริงเป็นเรื่องที่ถูก ในการชลอความเร็วลงขณะผ่านสี่แยก

แต่ เมื่อไฟเขียวเริ่มกระพริบ อันเป็นสัญญาณว่า ไฟเหลืองกำลังจะมา พี่ท่านก็เฆี่ยนเครื่องยนต์ จาก minimum speed ถึง maximum speed ด้วยความเร่งอย่างถึงไหนถึงกัน เพื่อจะได้ไม่ต้องติดแหงกอยู่กับไฟแดงให้เสียเวลา รถคันแรกสุดที่ทำอย่างนี้มักจะพ้นสี่แยกก่อนไฟแดงจะขึ้น

ส่วนรถคันถัดไปก็ทุ่มทุนเร่งกับเขาบ้าง ส่วนมากจะพ้นสี่แยกตอนไฟเหลือง หรือไม่ก็ตอนไฟแดงขึ้นแล้ว

รถ คันถัดไปที่ได้สิทธิในการฝ่าฝืนกฏ หากขอใช้สิทธิดังกล่าว ก็จะถือโอกาส ช่วงชุลมุน หรือช่วงติดพัน ก็แล้วแต่ "ไหลตามน้ำ" ตามก้นรถคันหน้าไป ทั้งๆ ที่ เห็นกันได้จะๆ ว่าท่านฝ่าไฟแดง

*ฝ่าไฟแดงในขณะไฟแดง เป็นการฝ่าไฟแดงแบบจงใจฝ่า ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มแดง หรือแดงมานานเท่าไหร่แล้วก็ตาม มักพบบ่อยในช่วงเวลาที่ สถานการณ์เป็นใจสองอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน คือตอนค่ำคืนที่ถนนโล่ง และคุณตำรวจไม่อยู่บนท้องถนน

ถึงจะเป็นย่านชุมชน แต่ในถนนยามค่ำคืนของเมืองเล็กๆ ก็โล่งและ เงียบจริงๆ ไม่ว่าจะมองจากทางไหน




ถนนด้านไฟแดงก็โล่ง ถนนด้านไฟเขียวก็โล่ง บรรยากาศอย่างนี้ เชื้อเชิญให้ฝ่าไฟแดงเป็นอย่างยิ่ง ผมเองเคยไปจอดรถติดไฟแดงตอนเที่ยงคืน ยังเคยคิดเลยว่า "นี่กรุบ้าหรือเปล่าวะ บนถนนไม่มีรถสักคัน ยังมาจอดรอไฟแดงอยู่ได้"

หลายคนคงคิดแบบเดียวกับผม และลงมือปฏิบัติจริง




*ความสามารถเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ เด็ก และ สตรีมีครรภ์ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง

ตามธรรมชาติของคนอย่างผม มักจะเคลิ้มๆ ไปตามกระแสของคนรอบข้างอยู่เสมอ
ไอ้คำที่ว่า "ไม่เห็นเป็นไรเลย คนอื่นเค้าก็ทำกัน" มันก็แสนจะเย้ายวนเหลือเกิน
แต่ ณ บัดnow ผมยังไม่ฝ่าฝืนกฏจราจร ...
ไม่ใช่เพราะผมเป็นคนดี ... เป็นเพราะผมไม่ไว้ใจ ว่าทำไปแล้วตัวผมเองจะปลอดภัยหรือไม่
ผมไม่ไว้ใจ ทั้งไฟเขียวและ ไฟแดง

No comments:

Post a Comment