Wednesday 27 November 2013

บันทึกของคนขี้แพ้ [re-post]

เช้าวันหนึ่ง สายตาของผมมองเห็นพื้นคอนกรีตที่สาดด้วยเศษดิน





เดินไปอีกสักหน่อย ก็เห็นหลุมในบริเวณใกล้ๆ กัน



ตัวการอยู่นี่เอง



พอเห็นน้องหมาขุดรูนอน เลยสำเนียกว่าหน้าร้อนที่แสนเกลียด มาถึงแล้วสินะ
แต่เมื่อคิดว่า ต่อจากนี้ไปคงได้แสบเนื้อแสบตัวกันอีก หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาลำเค็ญในช่วงหน้าหนาวมาแล้ว ก็เห็นว่าฤดูไหนๆ มันไม่ต่างกันเลย เพราะความทุกข์ของคนขี้แพ้อย่างผม มีอยู่ตลอดทั้งปี แล้วก็เกิดขึ้นซ้ำซากเป็น present simple
พอหน้าร้อน ถ้าทำงานจนเหงื่อออก ก็จะแพ้เหงื่อ จนแสบไปหมดทั้งตัว
พอถึงหน้าฝน ก็แพ้อากาศ จามไป แสบตาไป น้ำตาไหลไป
พอถึงหน้าหนาว ก็เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอแค่กๆ
เมื่อดูบันทึกที่ผมเคยเขียนไว้หลายปีก่อน จะเห็นมีแต่เรื่องบ่นเต็มไปหมด (ไม่ได้เรียงลำดับเหตุการณ์ตามเวลา)
หน้าร้อน
  • วันนี้ร้อนดั่งนรก แดดแรงเหมือนกับสามารถเผาทุกสิ่งให้เป็นจุลได้ในพริบตา กะัว่าจะออกไปนอกบ้าน คงไปไม่ไกล ถ้าไปไกล คงจะไม่ได้กลับถึงบ้าน น่าจะตายอยู่กลางทางมากกว่า
  • ตอนเช้าตื่นมาพร้อมกับเสื้อตัวใหม่ หมายถึงเสื้อที่ไม่ใช่ตัวเดียวกับที่ใส่นอน เห็นว่ามีคนช่วยเปลี่ยนให้กลางดึก เพราะร้อนจนละเมอขึ้นมาถอดเสื้อเอง ดีว่าไม่ละเมอถอดกางเกงในออกมาด้วย
  • เบื่อหน้าร้อน ... ตั้งแต่มากรุงเทพ อาการแสบไปหมดทั้งตัว เป็นมาทั้งอาทิตย์แล้ว วันนี้บอกอาม่าว่าทนไม่ไหว ขอไปอาบน้ำก่อน พี่สาวใจดีบอกให้ใช้ห้องน้ำของห้องพี่เค้าก็ได้ อาบน้ำเสร็จเหลือบไปเห็นแป้งตรางู เลยคิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะร้อนถึงมีแป้งเย็น นั่นไง ว่าแล้วก็ทาถูทั่วทั้งตัว แต่แป้งเย็นมันเย็นจริงๆ ทำให้แสบจุ๊ดจู๋จนทนไม่ไหว เอาไปล้างน้ำแล้วก็ยังแสบไปอีกนาน
หน้าฝน
  • วันนี้มาเล่นบ้านเพื่อน อีกสักหน่อยมันก็พาแม่มัน ไปซื้อของที่ห้างใกล้ๆ แล้วอีกสักครู่ฝนก็กระหน่ำลงมา ไอ้เราก็เป็นคนดี คิดว่าถ้าเอาร่มไปรับคงได้หน้า เอาล่ะ ว่าแล้วก็เอาร่มคันเบ้อเริ่มสองคัน เรากางไปคันนึง ฝนก็แรงลมก็แรง ยังกะจะัหอบร่มเราลอยไปได้ พอไปถึงหน้าห้างเห็นมันนั่งคุยกับแม่สบายๆ ส่วนเราเปียกตั้งแต่เท้าจรดหัว แม่บอกว่านั่งรอด้วยกันอีกสักพัก ฝนซาแล้วค่อยกลับ ไม่รู้ว่าเพราะเป็นเรื่องที่่คนปกติเขาทำกัน หรือเพราะเห็นสภาพเราหลังจากที่ฝ่าฝนมากันแน่
  • หน้าฝนทีไรแพ้อากาศทุกที อาการที่ส่อให้เห็็นคือ น้ำมูกเหนียวเหมือนกาว แสบตา แล้วก็อยากจาม กว่าจะจามได้แต่ละทีก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เมื่อกี้จามออกไปแล้วโล่ง แต่ไหงเกิดอยากจามขึ้นมาอีกแล้ว รู้บ้างไหม อยากจามแล้วจามไม่ได้ มันหงุดหงิดสิ้นดี
  • เวรแท้ๆ เมื่อสามวันก่อน แต่งชุดนิสิตเต็มยศ ขี่จักรยานไปมหาวิทยาลัยตามเส้นทางปกติ แต่แล้วก็ตะลึงเพราะน้ำท่วมทางเสียหมด ท่วมขึ้นมาประมาณยี่สิบเซ็นได้ เอาฟระ ระยะทางที่เหลืออยู่ก็ปั่นสุดแรงเกิด ตอนลุยช่วงน้ำท่วมก็ยกขาขึ้น มาถึงครึ่งทางแรงยังดีอยู่ เย้ๆ เดี๋ยวก็พ้นแล้วว้อย อนิจา ไอ่รถบัสมาจากไหนไม่รู้ ดันเลี้ยวฝ่าเข้ามา จักรยานเราโดนคลื่นน้ำทอนจนความเร็วลดลงเหลือศูนย์ จำใจใช้รองเท้าจุ่มลงไปในน้ำถีบจักรยานต่อ ก่อนที่เราจะจุ่มน้ำลงไปทั้งตัว ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ รองเท้าตากยังไงก็ไม่แห้ง แถมยังมีกลิ่นแปลกๆ (ก็ไปลุยน้ำเน่ามานี่หว่า) จำใจต้องทิ้งลงถังเสียแล้ว
  • วันนี้ยังไงก็ต้องส่ง Project ไม่งั้นมีสิทธิจบไม่ทัน หลังจากที่ตรวจสอบ แก้ไข ทำมาทั้งคืนแล้ว ก็พิมพ์ด้วยอิงค์เจ็ท ออกมาได้จำนวนสามร้อยกว่าหน้า เก็บทุกอย่างใส่กระเ้ป๋า ออกไปมหาวิทยาลัย ขณะที่นั่งรถเมล์อยู่ ฝนก็เทลงมา แต่ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหน มันเดือนร้อนอีตรงที่ เดินจากป้ายรถเมล์เข้าประตูมหาวิทยาลัย เดินต่อจากประตูมหาวิทยาลัยเข้าอาคาร แล้วก็เดินจากอาคารหนึ่งไปอีกอาคารหนึ่งนี่สิ ด้วยระยะทางที่ำไกลตัวเราก็เปียกฝนจนชุ่มฉ่ำไปหมด ยังดี paper ยังอยู่ในกระเป๋า พอเอาูเอกสารออกมาเตรียมเข้าเล่ม เย้ย~~~ ครึ่งเล่ม(ไม่เรียงหน้า)เปียกชุ่มฉ่ำ จากน้ำฝนที่รั่วเข้ามาทางซิปกระเป๋า ต้องพยายามแงะหน้าที่เปียกไม่มากออกมาถ่ายเอกสาร ส่วนที่เปียกน้ำเกินเยียวยา ต้องวิ่งเอา file ไปหาที่พิมพ์ใหม่ ... เตรียมการมาอย่างดีตอนเช้า แต่ได้ส่งก่อนธุรการปิดห้องประมาณห้านาที หน้าฝนเป็นอะไรที่เฮงซวยมากๆ
หน้าหนาว
  • ปกติเราไม่หวั่นกับอากาศหนาว แต่วันนี้ทำไมมันหนาวเกินเหตุ หนาวจนคิดว่าเสื้อกันหนาวที่ใส่อยู่หนาไม่พอ ซื้อใหม่เสียเลยเป็นไง (เขียนเพิ่ม - หลังจากที่ซื้อเสื้อกันหนาวใหม่สองวัน อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นมาเฉยๆ จนไม่ต้องพึ่งเสื้อกันหนาวแล้ว)
  • อีกล่ะ มาอีกแล้ว หนาวทีไรเจ็บคอทุกที เจ็บคออย่างนี้เดี๋ยวมีไอต่อ ไอแบบไอไม่หยุด กินยาหมอให้จนหมดแล้วก็ยังไอต่ออีกเป็นเดือนกว่าจะหาย ตอนนอนก็หายใจไม่ออก เซ็งเจรงๆ
  • เบื่อการสระผมหน้าหนาวเหลือเกิน ถ้าเป็นหน้าร้อนล่ะ จะอยู่ในห้องน้ำสักสองสามชั่วโมงก็ได้ แต่นี่น้ำก็เย็นเฉียบ อากาศก็หนาวจัด แค่วิ่งผ่านน้ำ ฟันก็กระทบกันดังกึ๊กๆๆๆ ทีแรกนึกว่าหนาวสั่นขนาดฟันกระทบกันได้ มีแต่ในการ์ตูน Tom&Jerry เสียอีก

บางทีเห็นน้องหมา นอนอยู่เงียบๆ จะฤดูไหนก็ไม่มีปากมีเสียง
ผมคิดไปว่า ถ้ามันพูดได้มันจะบ่นมั่งหรือเปล่า? ว่าร้อน ว่าเปียก ว่าหนาว ตอนที่มันนอนอยู่อย่างนี้่มันจะนึกเซ็งชีวิตบ้างไหมนะ?



ในที่สุดผมคิดว่า มันคงคิดหาวิธีใช้ชีวิตในแต่ละวันอยู่ให้สบายที่สุดมากกว่า แทนที่จะมากังวลเรื่องความทุกข์เข็ญใจต่างๆ ... แต่ผมทำอย่างมันไม่ได้หรอกครับ


No comments:

Post a Comment