Wednesday 27 November 2013

ความหมาย ของสิ่งที่ต้องการหมายถึง

ในตอนที่ผมออกไปให้บริการซ่อมจักรยานยนต์ที่ต่างอำเภอ นำทีมโดยอาจารย์ผู้ชำนาญการ พร้อมนักเรียนช่างผู้ผ่านการฝึกฝนอันโชกโชน และผมผู้ทำหน้าที่ลงทะเบียนรับงานซ่อม ...

...สรุปว่าผมไม่ได้เป็นคนซ่อม หรือคนช่วยซ่อมแต่อย่างใดตามที่เกริ่นไว้ในทีแรก
เอาเถอะ เพราะอย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้นไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรต่อสิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปเลย

เรื่อง ของเรื่อง มันเริ่มจาก หลังจากซ่อมจักรยานยนต์เสร็จแล้ว งานใหม่ยังไม่เข้า การเล่นตลกคาเฟ่ในกลุ่มเพื่อนนักเรียนด้วยกันก็เกิดขึ้น
A : นี่นี่ เมิงใส่แว่นเนี่ย เกี่ยวกับอะไรวะ?
B: เกี่ยวกับที่กรุสายตาสั้นสิ
A: ใครบอกเมิง ที่เมิงใส่แว่นเนี่ย ก็ต้องเกี่ยวกับหูสิ (สิ่งที่เรียกว่ามุขแป๊ก No.1 )
B: แล้วเมิงเปลี่ยนไฟหน้ามอ'ไซด์ คันนี้ยัง?
A: "ไฟ" ที่ไหน เขาเรียกว่า "หลอด" โว้ย
B: หลอดเมิงก็ต้องเอาไว้ดูดน้ำกินสิฟระ (สิ่งที่เรียกว่ามุขแป๊ก No.2 )

อาจารย์ ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ขำกับมุขฝืดๆ นี้ แต่ก็พูดเสริมในเรื่องทำนองเดียวกันว่า เคยรับรถที่เจ้าของเอามาให้เปลี่ยนหัวเทียน

ในขณะที่กำลังจะถอดหัวเทียนออกนั้น เจ้าของรถก็แย้งขึ้นมาว่า "ไม่ใช่ ไม่ใช่ครับ อาจารย์ หัวเทียนตรงนี้ ตรงข้างบนนี้"

หัวเทียนในความหมายของเขา ก็คือหลอดไฟ ต่างหาก

สิ่ง ที่อาจารย์เล่าให้ฟัง แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม แต่ก็ทำให้ผมหวนคิดถึงเรื่อง "ความหมายของสิ่งที่ต้องการหมายถึง" ได้สามสี่เรื่อง

คนบางคน ไม่ได้เรียกหลอดไฟฉายว่า "หลอดไฟฉาย" แต่จะใช้คำว่า "หัวเทียนไฟ" หรือ "ดีไฟ" แทน
ถ้า ผมเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านที่เรียกหลอดไฟว่า หัวเทียน หรือ ดีไฟ แล้วไปแย้งว่าเขาเรียกไม่ถูก ผมนี่แหละจะกลายเป็นคนที่เรียกผิดเสียเอง

กรณีนี้เรียกว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม

หาก คนในหมู่บ้านดังกล่าว เข้ามาซื้อของในเมือง ณ ร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผมทำงานอยู่ การที่เขาถามหาหัวเทียน หรือดีไฟ แล้วผมดันตอบว่า "ไม่มีครับ" ก็จะเท่ากับการตัดโอกาสทางการค้าไปโดยปริยาย ทั้งที่หลอดไฟกองเป็นพะเนินอยู่ในร้านนั่น

กรณีนี้เรียกว่า ลูกค้าตาหลิ่ว ต้องเข้าใจว่าทำไมเขาหลิ่วตา

สำหรับสินค้าบางรายการที่เรียกชื่อกันเป็นที่เข้าใจ ก็มีรากศัพท์มาจากภาษาอังกฤษ

เช่น

มีลุงมาหาซื้อ โรไฟ ผมก็งงไปพักหนึ่ง อะไรวะ โรไฟ ... เอาไปใช้ทำอะไรครับลุง ... ก็โรไฟ ที่เอาไปพ่วงไฟไปใช้ไกลๆ ไงเล่า อ๋อ มันคือ โรล(Roll) สำหรับเก็บสายไฟ หรือ ล้อสายไฟ หรือตลับเก็บสายไฟ นั่นเอง

หรือ

มีฝรั่งมาซื้อน๊อต พอนับเสร็จเรียบร้อย พ่อผมก็ถามว่าจะเอาอะไรเพิ่มไหม? สกรูไร เอาด้วยหรือเปล่า
ฝรั่งก็ร้อง "Ah!! Screwdriver" แล้วก็เลือกซื้อไขควงไปอีกสองอัน

แต่บางครั้ง การแสดงความหมายของสิ่งที่ต้องการหมายถึง มันก็ไปไกลเกินกว่าที่ผมจะจินตนาการถึง
เช่นในตอนที่ทำงานอยู่ร้านเจ็ดสิบเอ็ด นั้น

ลูกค้า : ขอ "บอก" หน่อยพี่
ผม : บอก ... อยากบอกว่าอะไรครับ?
ลูกค้า : "บอก" อ่ะ "บอก" ไม่รู้จัก "บอก" เหรอ
ผม : .... (ใครอยากจะบอกอะไรใคร...จะซื้อโฟนการ์ดไปโทรบอกใครหรือเปล่า?)
ลูกค้า : ก็ที่ไปเที่ยวผู้หญิงอ่ะ (แล้วก็ชี้ไปที่กล่องถุงยางอนามัย)
ผม : .... (โหย อยากได้ถุงยางฯ ทำไมไม่บอกตรงๆฟระ )
เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ถุงยางอนามัยยี่ห้อนั้น มีคำโฆษณาที่ว่า "บอก" จริงๆ ทำนองว่า จะบอกรักให้บอกด้วยถุงยางฯยี่ห้อนี้

ตกลงว่าผมผิดเองครับพี่ ผมมันไม่รู้เรื่องเอง เพราะปกติผมใช้แต่ยี่ห้อข้างล่าง


(credit ภาพ : durex kingtex จาก condomthai.com)


แต่สำหรับบางคน เช่นเด็กประถมคนนี้ ไม่มีคำขอโทษสำหรับผม
เด็ก : พี่พี่ มี "บล๊อกข้อต่อ" ไหม?
ผม : อันนี้ใช่ไหม (เอา Terminal Block แบบ Feed Through สำหรับต่อสายให้ดู)



(credit ภาพ : เต๋าต่อสาย จาก spelectric.org , Feed Through Terminal Block จาก cncomponent.com)

เด็ก : (พึมพำ)ใช่รึเปล่าวะ ... ไอ่คนที่จะซื้อไปอยู่ไหนแล้ว(หันมองหาเพื่อน) .... (ควักหนังสือออกมา)มันอยู่หน้าไหนวะ...
หลังจากเปิดหนังสือหารูปของบล๊อกข้อต่อที่ว่า พลิกไปพลิกมาก็หาไม่เจอ แล้วเด็กก็ถามขึ้นมาว่า
เด็ก : มีไหมครับ? "บล๊อกข้อต่อ" น่ะ
ผม : (เอ้า!!  ขนาดเอ็งยังไม่รู้ว่า บล๊อกข้อต่อ หน้าตาเป็นยังไง แล้วตูจะรู้หรือเปล่าฟระ) ... จะเอาไปใช้ทำอะไรล่ะ?
เด็ก : ไม่เอาก็ได้ครับ (แล้วก็ออกจากร้านไป...ในใจคงคิดว่าผมซักมาก ชักดุ ดูน่ากลัวล่ะสิ)

ความหวังดีของผม ที่อยากให้ลูกค้าได้สิ่งที่ถูกต้องตามที่ต้องการ กลับเป็นการทำให้ผมขายไม่ได้แทน
ถ้าผมยืนยันกับเด็กไปว่า "นี่แหละ คือบล๊อกข้อต่อ" ผมคงขายได้ ส่วนเด็กจะเอาไปใช้ได้หรือไม่ ... ก็เป็นอีกเรื่องนึง

อันที่จริง Terminal Block นั้น มีชื่อเรียกหลายชื่อ แถวบ้านผมเรียกลูกเต๋าต่อสาย บางคนเรียกข้อต่อสาย
ด้วยเหตุที่ว่าของหนึ่งอย่างมีชื่อเรียกหลายอย่าง ผมจึงไม่ขอบอกว่าใครเรียกผิด
แต่บางคนมั่นใจว่าตัวเองเรียกถูกแล้ว ก็มั่นใจเกินไปจนน่าหมั่นไส้
ลูกค้า : ซื้อสายไฟแล้วเอาหลังเต่าด้วยนะ
ผม : หลังเต่า ... หมายถึง สวิตช์ทรงหลังเต่า ใช่ไหม
ลูกค้า : ไม่ช่าย~~~ หลังเต่าที่เอาไว้ต่อสายน่ะ แค่นี้ไม่รู้จักเหรอ
ผม :  ... (เก็บอารมณ์ไว้ แต่ขอฟันธงว่าพี่น่ะเรียกผิดเอง โดยเพี้ยนจากลูกเต๋าเป็นหลังเต่า)

กรณีแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้น เมื่อมีชายคนหนึ่งไปซื้อของที่ร้านเครื่องเขียน
ลูกค้า : มีสติ๊กอิทไหม?
คนขาย : (ลังเล)  อะไรเหรอ สติ๊กอิท ที่ว่า?
ลูกค้า : สติ๊กอิทไง สติ๊กอิทอ่ะ (ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึง เป็นร้านขายเครื่องเขียนยังไง ไม่รู้จักสติ๊กอิท)
คนขาย : เจ้ๆๆ ร้านเรามี สติ๊กอิทไหม?
เจ้เจ้าของร้าน : (มาเอง) น้องหมายถึง โพสอิท ใช่ไหมคะ?
ลูกค้า : โอ้ ใช่ๆ โพสอิท




(credit ภาพ: post-it จาก 3M.com , stick-it จาก 123dollar.net)

คนขายคงมีอารมณ์ที่ไม่แตกต่างจากเรื่องที่ผมเล่ามาข้างต้น
ที่ผมรู้ดีก็เพราะลูกค้าคนนั้น ... คือผมเอง

1 comment:

  1. 123dollar บาคาร่า บาคาร่าออนไลน์ สูตรบาคาร่าคนนิยมใช้ทำเงินมาก สมัครวันนี้รับสูตร บาคาร่าฟรีทันที 123dollar.live

    ReplyDelete